บล็อกเกอร์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการเรียนการสอนวิชาอินเตอร์เน็ตในชีวิตประจำวันของ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเพื่อให้ผู้ที่สนใจใส่ใจในเรื่องสุขภาพได้เข้าชมและนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันต่อไป

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

การออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย

 
          คน ทุกวัยสามารถออกกำลังกาย หรือเล่นกีฬาได้ ไม่มีข้อห้ามแม้เด็กเล็ก หรือผู้สูงอายุ แต่มีข้อแตกต่างกัน คือ ชนิดและความหนักเบาของกีฬาที่เหมาะสมกับวัย แต่ก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและการป้องกันการบาดเจ็บด้วย


          ออกกำลังกายตามวัย

          ในเด็กเล็ก ที่มีอายุต่ำกว่า 10 ขวบ ความ ทนทานของร่างกายมีน้อย เช่นเดียวกับการสั่งงานทางระบบประสาท ทำให้การประสานงานของกล้ามเนื้อเป็นไปได้ไม่ดี จึงควรให้เล่นกีฬาประเภทง่ายๆ หรือเบาๆ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากนัก ที่ดีที่สุด คือ การวิ่ง ไม่ควรบังคับเด็ก เพราะจะทำให้เด็กเบื่อ และอาจเกลียดการออกกำลังกายตลอดไป และต้องชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายด้วย นอกจากนี้ การเล่นเกม ว่ายน้ำ และการเล่นที่ฝึกความคล่องแคล่ว และความชำนาญแบบง่ายๆ เช่น ปีน ไต่ ก็เหมาะกับเด็กวัยนี้เช่นกัน

          ปัจจุบัน มีความเข้าใจผิดที่ชักจูงเด็กๆ ในวัยนี้ออกมาวิ่งเพื่อสุขภาพกับพ่อแม่ และพี่ๆ แม้ว่าจะมีเด็กในวัยนี้สามารถวิ่งมาราธอนได้ก็ตาม แต่ส่วนมากจะเกิดการบาดเจ็บถึงเข้าโรงพยาบาลก็มีบ่อยๆ การออกกำลังกายลักษณะวิ่ง หรือกระโดดของเด็กวัยนี้ อาจทำให้มีการเจ็บปวดที่ข้อสะโพกทำให้ข้อสะโพกเสียและเกิดความพิการขึ้นได้ โดยเฉพาะเด็กในวัย 7-8 ขวบ

          ในเด็กโต อายุ 10-14 ปี เป็นช่วงที่การประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อและประสาทดีขึ้น สามารถเล่นกีฬาที่ใช้อุปกรณ์ได้ เช่น ฟุตบอล แชร์บอล วอลเลย์บอล และที่เป็นข้อห้ามอย่างยิ่ง คือ การชกมวย กีฬาประเภทอดทน เช่น วิ่งระยะไกลนั้น การวิ่งมากๆ จะทำให้มีการแยกของกระดูกปลายส้นเท้าตรงส่วนที่กำลังมีการเจริญเติบโต เกิดการบาดเจ็บและปูดนูนขึ้น ถ้าเป็นมากๆ จะทำให้มีการหลุดของกระดูก ซึ่งเป็นที่เกาะของเอ็นร้อยหวายบริเวณส้นเท้าได้

          ในวัยรุ่น อายุ 14-17 ปี เป็นช่วงที่หนุ่มสาวกำลังเข้าสู่วัยที่สมบูรณ์เต็มที่ จึงมีความแตกต่างอย่างมากสำหรับหญิงและชาย โดยผู้ชายจะเล่นกีฬาได้แทบทุกชนิด ส่วนผู้หญิงนั้นมักจะเน้นกีฬาประเภทที่ไม่หนัก แต่ทำให้ร่างกายแข็งแรง และเสริมสร้างรูปร่างทรวดทรง เช่น ว่ายน้ำ ยิมนาสติก และวอลเลย์บอล การใช้งานมากเกินไปทั้งหญิงและชายในวัยนี้

โดย เฉพาะการวิ่ง จะทำให้มีการอักเสบหรือแยกตัวของปุ่มกระดูกหน้าแข้งตอนบน ทำให้กระดูกปูดนูนขึ้น และถ้าเป็นมากๆ จะมีการแยกตัวและมีการหลุดของชิ้นกระดูกบริเวณนั้นได้ มีอาการเจ็บเสียวอยู่ตลอดเวลาเมื่อวิ่ง หรือเดินเร็ว บางครั้งต้องรักษาโดยการผ่าตัดเอาออก และที่พ่อแม่ต้องไม่ลืม คือ ควรดูแลเรื่องโภชนาการและควรตรวจดูว่าลูกๆ ไม่ได้ออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป

          ในผู้ใหญ่-ผู้สูงอายุ ในผู้ใหญ่ ส่วนใหญ่มักมีข้ออ้างว่าไม่มีเวลาว่าง แต่ร่างกายมีความต้องการที่จะให้ดูแลรักษาและฟื้นฟูสภาพร่างกายที่กำลัง เสื่อมถอยลง การออกกำลังกายจึงมีความจำเป็นมาก ซึ่งมีหลายรูปแบบสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการออกกำลังกายให้เหมาะสมกับร่าง กาย เวลา และสถานที่

นอก จากนี้ ยังมีการศึกษาวิจัยพบว่า หลังจากอายุ 30 ปี ไปแล้ว คนเราจะมีพลังลดลงร้อยละ 1 ทุกๆ ปี ซึ่งหมายความว่า เมื่อถึงอายุ 60 ปี เราจะมีพลังลดลงน้อยลงไปถึงร้อยละ 30 จากที่เคยมีเมื่ออายุ 30 ปี สำหรับประโยชน์ที่จะได้อย่างแน่นอนจากการออกกำลังกาย ก็คือ สามารถช่วยชะลอความเสื่อมที่จะเกิดตามธรรมชาติประมาณ 1% ทุกๆ ปี หลังจากอายุ 30 ปี ไปแล้วให้เสื่อมช้าลงได้


          ออกกำลังกายอย่างไรดี

          ควรออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น ขา แขน ลำตัว, ออก กำลังกายอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วันๆ ละ 20-30 นาที ถ้าฝึกเบาๆ ไม่ควรเกิน 1 ชั่วโมง เช่น ว่ายน้ำ ถีบจักรยานอยู่กับที่ เดินเร็ว และออกกำลังกายให้มีอัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้นโดยประมาณ 90-110 ครั้งต่อนาที

          นอก จากนี้ ก่อนและหลังการออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาทุกครั้ง ควรมีการยืดหยุ่นกล้ามเนื้อในท่าพื้นฐานซึ่งมีความจำเป็นอย่างมากในผู้สูง อายุ ประมาณ 5-6 นาที แล้วจึงออกกำลังกายอย่างช้าๆ เช่น การรำมวยจีน ไทเก๊ก รำไม้พลอง หรือโยคะ อย่างน้อยวันละ 30-40 นาที


          ข้อควรระวัง

          ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องออกแรงเกร็ง หรือเบ่ง เช่น การยกน้ำหนัก กระโดด หรือวิ่งด้วยความเร็วสูง, ไม่ควรออกกำลังกายที่ต้องออกแรงกระแทก โดยเฉพาะที่ข้อเข่า เช่น การกระโดด การขึ้นลงบันไดสูงมากๆ หรือการนั่งยองๆ, ไม่ควรบริหารร่างกายในท่าที่ใช้ความเร็วสูง หรือเปลี่ยนทิศทางในการฝึกอย่างฉับพลัน หรือเดินบนทางลาด ทางลื่น,

ที่ สำคัญ ไม่ควรออกกำลังกายในที่ที่มีอากาศร้อน อบอ้าว หรือแดดจ้า จะทำให้ร่างกายเสียน้ำและเกลือแร่ได้มาก เพราะการระบายความร้อนและไตมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง, ไม่ ควรออกกำลังกายขณะร่างกายรู้สึกอ่อนเพลียหรือไม่สบาย นอกจากนี้ หากวันไหนที่ไม่ได้ออกกำลังกาย ควรเพิ่มการเคลื่อนไหวของร่างกายอยู่บ่อยๆ ด้วย

          แม้การออกกำลังกายจะดีสำหรับทุกวัย แต่ในวัยผู้สูงอายุ ต้องระวังเรื่องของอุบัติเหตุ เพราะร่างกายของผู้สูงอายุจะเสื่อมถอยลง


ที่มา  http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/16623

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น